GDP 11.6US$bn ปี 2558
GDP Per Capita(ต่อหัว) (US$) 27,759
จุดแข็ง-จุดอ่อน-เบื้องต้น ของประเทศต่างๆใน AEC ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
จุดแข็ง (Strengths)
- เป็นประเทศที่ประชากรมีรายได้สูงและมีกำลังซื้อมาก มีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีสูงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน และสูงเป็นลำดับที่ 20 ของโลก รายได้ต่อหัวของประชากรมากกว่า 40,000 เหรียญสหรัฐต่อปี
- เป็นประเทศที่มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง
- รัฐบาลบรูไนมีความพยายามพัฒนาภาคเศรษฐกิจอื่นๆ ให้เติบโตนอกเหนือจากกลุ่มธุรกิจพลังงานซึ่งเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เพื่อการกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจให้มีความหลากหลายและมั่นคงยิ่งขึ้นในระยะยาว อีกทั้งยังมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการเติบโตของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
- ตลาดเพื่อการบริโภคในประเทศมีขนาดเล็กเนื่องจากมีประชากรประมาณ 450,000 คน
- บรูไนเป็นประเทศที่ขาดแคลนแรงงานและช่างฝีมือแรงงาน จำเป็นต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติเป็นจำนวนมาก แรงงานส่วนใหญ่มาจากอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย อินเดีย และ บังคลาเทศ
- บรูไนเป็นประเทศมุสลิมที่มีความเคร่งครัด ทำให้มีข้อจำกัดทางการค้าที่เคร่งครัดเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าประเภทอาหารซึ่งกำหนดให้เป็นอาหารฮาลาลเท่านั้น โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ได้แก่ เนื้อโค กระบือ แพะ แกะ และไก่
- เศรษฐกิจบรูไนค่อนข้างพึ่งรายได้จากการส่งออก โดยรายได้หลักมาจากการขายน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และมีฐานะเกินดุลการค้าในระดับสูง
- บรูไนมีบทบาทเป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ที่พึ่งพาภาคธุรกิจดังกล่าวค่อนข้างมาก ราวร้อยละ 62 ของ GDP โดยในปี 2553 บรูไนเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก
- บรูไนมีแนวนโยบายลดการพึ่งพาเศรษฐกิจน้ำมัน และพยายามสนับสนุนภาคธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน ที่มีความหลากหลายมากขึ้น (Diversification) โดนเน้นการเข้ามามีส่วนร่วมของภาคเอกชนมาก ขึ้น ในภาคธุรกิจบริการการเงินอิสลาม อุตสาหกรรมอาหารฮาลาล และธุรกิจ SMEs ทั้งยังอยู่ ระหว่างการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อให้เอกชนมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจมากขึ้น
สถานการณ์เศรษฐกิจทั่วไปปี 2554
ภาคธุรกิจ: จากข้อมูลล่าสุดของ ทางการบรูไนพบว่า เศรษฐกิจบรูไน ในช่วงไตรมาส 3/2554 เติบโตร้อย ละ 2.5 โดยเป็นแรงขับเคลื่อน จากเศรษฐกิจภาคน้ำมันเป็นหลัก กระนั้นก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่าธุรกิจที่ ไม่ใช่น้ำมันมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาธุรกิจค้าปลีก ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และบริการขนส่งและ โทรคมนาคม
ภาคการลงทุน: การลงทุนจากต่างชาติในบรูไนปี 2554 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 จากปีก่อน โดยสาขาธุรกิจหลักที่ดึงดูดการลงทุนเป็นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ ซึ่งผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดโลก ได้เข้ามาลงทุนในบรูไนมาจากหลายสัญชาติ อาทิ อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และญี่ปุ่น
แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2555 และปี 2556
เศรษฐกิจบรูไนปี 2555 และ 2556 น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากที่ ขยายตัวร้อยละ 1.9 ในปี 2554 (ตัวเลขประมาณการ) เพราะด้วยเศรษฐกิจบรูไนที่พึ่งพา การส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นสัดส่วนหลัก และแนวโน้มราคาน้ำมันในปี 2555 น่าจะ ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงแม้จะลดระดับจากปีก่อนลงบ้าง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนสำคัญจาก การส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนมากขึ้น ซึ่งน่าจะมีการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชน ได้พอสมควร โดยเฉพาะนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศและเขตอุตสาหกรรมหลาย แห่งในประเทศ
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจ ปี พ.ศ. 2557 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 6.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยเสถียรภาพภายในและภายนอกประเทศยังคงแข็งแกร่งสามารถรองรับ การขยายตัวในอนาคต สะท้อนได้จากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ การเกินดุลการคลังต่อเนื่องและ การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ในระยะปานกลางบรูไนอาจจะเผชิญความเสี่ยงจากค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นของค่าเหรียญบรูไน เนื่องจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นระยะ
ธุรกิจที่ไทยมีศักยภาพ ในการลงทุนในประเทศบรูไน
ธุรกิจที่ไทยมีศักยภาพ ในการลงทุนในประเทศบรูไน • ในปัจจุบันการลงทุนของธุรกิจไทยในบรูไนยังมีค่อนข้างน้อย แต่คาดว่าในระยะข้างหน้า เมื่อ อาเซียนก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 จะเอื้อโอกาสทางการลงทุนของธุรกิจไทยในบรูไน ในหลายสาขา อาทิ อุตสาหกรรมการผลิตปิโตรเคมีขั้นปลายน้ำต่างๆ ธุรกิจแปรรูปอาหาร โดยเฉพาะ อาหารฮาลาล เนื่องจากปัจจุบันบรูไนต้องพึ่งพานำเข้าสินค้าอาหารพอสมควร ธุรกิจเคมีภัณฑ์ ธุรกิจ บริการอื่นๆ เช่น ธุรกิจก่อสร้าง รวมถึงธุรกิจการผลิต เพื่อส่งออกในเขตอุตสาหกรรมการส่งออก อันจะเอื้อ สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนทางภาษี
ปัจจัย เสี่ยง พึงระวัง
• บรูไนมีข้อจำกัดด้านตลาดผู้บริโภคมีขนาดเล็ก และมี จำนวนแรงงานค่อนข้างน้อย
• ความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างแน่นแฟ้นของบรูไนกับสิงคโปร์ และมาเลเซีย ทั้งยังมีความสะดวกในการคมนาคมขนส่ง ระหว่างกัน รวมถึงวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน อาจเป็น ข้อจำกัดการเข้าสู่ตลาดของธุรกิจไทย
• บรูไนค่อนข้างเคร่งครัดในการปฏิบัติตามหลักศาสนา อิสลาม และต้องขออนุญาตติดตราอาหารฮาลาลจาก ทางการบรูไน ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจฮาลาลควรเคร่งครัด และใส่ใจในมาตรฐานและถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม เพื่อสร้างความไว้วางใจในแบรนด์สินค้าไทย ท่ามกลาง คู่แข่งจากประเทศมุสลิมอื่นๆ
การขนส่งสินค้า
ทางบก
ประเทศบรูไนมีทางหลวงสายหลักสายเดียวคือ Muara – Jerudong – Tutong มีความยาวประมาณ 1,712 กิโลเมตร
ทางอากาศ
สายการบินรอยัลบรูไน
ทางน้ำ
ประเทศบรูไนมีท่าเรือที่ขนสินค้าอยู่ทั้งหมด 6 แห่ง โดยแบ่งเป็นของภาครัฐ 3 แห่ง และภาคเอกชน 3 แห่ง ท่าที่เป็นของรัฐบาลบรูไน ได้แก่
1. ท่าเรือมัวรา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือห่างจากเมืองหลวง 27 กิโลเมตร เป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ท่าเรือบันดาร์เสรเบกาวัน เป็นท่าเรือที่รับเฉพาะเรือที่มีความยาวไม่เกิน 30 เมตร และมีความลึกไม่เกิน 5 เมตร
2. ท่าเรือบันดาร์เสรเบกาวัน เป็นท่าเรือที่รับเฉพาะเรือที่มีความยาวไม่เกิน 30 เมตร และมีความลึกไม่เกิน 5 เมตร
3. ท่าเรือกัวลาบือเลต ตั้งอยู่ที่แม่น้ำบือเลตรับเฉพาะเรือที่มีความยาว 60 เมตร เพราะท่าเรือยาว 61 เมตร โดยมากเรือที่เข้าเทียบท่ามักจะเป็นเรือจากประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนท่าเรือเอกชนของบรูไนมีอีก 3 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือซีเรีย ท่าเรือลูมูต และท่าเรือตันหยงลีรัง
แผนที่การลงทุนของธุรกิจไทยในประเทศบรูไน
แผนที่การลงทุนของธุรกิจไทยในประเทศบรูไน
ภาษีนำเข้า
โดยทั่วไปมีการเรียกเก็บในสินค้าแต่ละประเภท ดังนี้
- อาหาร สินค้าเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม ได้รับการยกเว้นภาษี
- เครื่องมือและเครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ไม้ซุง อุปกรณ์และเครื่องด้านการถ่ายภาพ เฟอร์นิเจอร์ยานพาหนะและอะไหล่ เรียกเก็บอัตราร้อยละ 20
- น้ำหอมและเครื่องสำอาง ร้อยละ 30
ประชากร
ประชากรโดนเฉลี่ยน ประมาณ 400,569 คน ในปี2553
โดยในปี 2553
อายุ 0-14 มี 26.2%
อายุ 15-64 มี 70.2%
อายุ 65 ปีขึ่นไป มี 3.6 % โดยประชากรทั้งหมด 100%
ภูมิศาสตร์
เกาะบอร์เนียวล้อมรอบด้วยทะเลจีนใต้ทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือ ทะเลซูลูทางตะวันออกเฉียงเหนือ ทะเลเซเลบีสกับช่องแคบมากัสซาร์ทางตะวันออก และทะเลชวากับช่องแคบการีมาตาทางใต้
ดินแดนทางตะวันตกของเกาะบอร์เนียวได้แก่ คาบสมุทรมลายูและเกาะสุมาตรา ทางใต้ได้แก่ เกาะชวา ทางตะวันออกได้แก่ เกาะซูลาเวซีและหมู่เกาะโมลุกกะ ส่วนทางตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ หมู่เกาะฟิลิปปินส์
จุดสูงที่สุดของเกาะบอร์เนียว คือภูเขากีนาบาลูในรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย มีความสูง 4,101 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น